ในการตัดสินใจเลือกซื้อปั๊มลมที่จะเข้ามาทำงานในโรงงานของคุณ เราจะตัดสินแค่ราคาซื้อเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันจะแสดงถึงความคุ้มค่าที่เราจะได้รับ โดยอย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆในระยะยาว การวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานหรือ (Life Cycle Cost) จะทำให้คุณเห็นแนวทางที่จะได้รับความคุ้มค่าในการเลือกซื้ออย่างครอบคลุมมากขึ้น
Life Cycle Cost สำคัญอย่างไรกับปั๊มลม?
ก่อนอื่นมารู้จักกับ Life Cycle Cost กันเถอะ…
ปกติแล้วการลงทุนซื้อเครื่องจักรสักตัวมาใช้งานเราก็ต้องคำนึงถึงผลตอบแทนและความคุ้มค่าที่จะได้รับ หรือก็คือการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน (Life Cycle Cost : LCC) นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ทุกขั้นตอนในการใช้งานเครื่องมือนั้น ตั้งแต่การเริ่มซื้อเครื่อง เครื่องเริ่มทำงานไปจนถึงกระบวนการกำจัดของเสียและการรีไซเคิลเลยค่ะ
การคำนวณ Life Cycle Cost
การคำนวณค่า LCC นั้นใช้เปรียบเทียบข้อมูลก่อนจะเลือกลงทุน ซึ่งการคำนวณจะครอบคลุมทั้งเรื่องของเงินทุนในตอนซื้อเครื่อง การบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การคำนวณ LCC มักจะถูกนำไปคำนวณในการติดตั้งเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อใช้เป็นพื้นฐานข้อกำหนดต่างๆ การคำนวณจะประมาณค่าใช้จ่ายในอนาคตโดยพิจารณาจากความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือนั้นๆ จากผู้ลงทุนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณารวมไปถึงค่าใช้จ่ายพลังงานและเงื่อนไขในการติดตั้ง
การคำนวณค่า LCC ใช้เปรียบเทียบอะไรบ้าง?
การซื้อของบางครั้งคุณอาจจะพิจารณาถึงราคาตอนซื้อเท่านั้นไม่ได้ แต่ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย เช่น เมื่อคุณซื้อเครื่องปริ้นเตอร์ คุณก็ต้องคำนึงว่าจะต้องมีค่าหมึก หากคุณซื้อรถยนต์ ก็จะต้องมีค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุงรักษาตามมา เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม (air compressor) ก็เช่นกัน แล้วการซื้อปั๊มลมควรคำนวณค่า LCC จากอะไรล่ะ? นี่เลย แอตลาส คอปโก้ เรามีข้อควรพิจารณาในการคำนวณค่า LCC ก่อนการลงทุน ดังนี้
- คุณภาพการผลิต
- ความปลอดภัยในการผลิต
- ข้อกำหนดการลงทุนที่ตามมา
- การซ่อมบำรุงและเครือข่ายการบริการ
- สิ่งแวดล้อม
- คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต
- ความเสี่ยงในการสูญเสีย
ในการประเมินค่าบริการบำรุงรักษา จะต้องนำมาคำนวณในค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานด้วยนะ
ก่อนทำการซื้อใดๆ ในโรงงานของคุณ ให้เปรียบเทียบตัวเลือกต่างๆ และคำนวณ LCC ของผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบทางการเงินและการดำเนินงานอย่างครอบคลุมนะคะ
