เลือกขนาดเครื่องอัดอากาศ(air compressor) ที่เหมาะสมกับการใช้งาน?

การเลือกใช้เครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) ให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะหากเราไม่มีความรู้และเข้าใจถึงความต้องการในการใช้ลมที่เหมาะสมจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและมีการใช้พลังงานเกินความจำเป็น โดยเครื่องอัดอากาศ (Air Comrpessor) จะต้องคำนึงถึงการใช้งานในอนาคตด้วย โดยเครื่องอัดอากาศที่เล็กเกินไปจะทำให้ผลิตอากาศไม่เพียงพอต่อความต้องการ และหากมีขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดความสูญเสียพลังงานมากเกินไป หากคุณยังไม่แน่ใจว่าขนาดเครื่องอัดอากาศ (Air compressor) ที่คุณใช้อยู่นั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป? ประหยัดพลังงานไหม?

เครื่องอัดอากาศที่ใช้อยู่เล็กเกินไปไหม?
หากเครื่องอัดอากาศ (Air compressor) ที่คุณใช้งานอยู่มีชั่วโมงการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องอัดอากาศแบบโรตารี่ (Rotary Compressor) และเครื่องอัดอากาศแบบลูกสูบ (Piston Compressor) เนื่องจากเครื่องอัดอากาศทั้งสองชนิดนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง จุดสังเกตุคือเครื่อมีอาการลมตกหรือ Pressure Drop ทำให้เครื่องมีผิดปกติและอาจเกิดปัญหาตามมา คุณควรคำนวนปริมาณการใช้ลมอัดภายในโรงงานเพื่อวิเคราะห์และนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องอัดอากาศที่ใช้อยู่ในการวางแผนซ่อมบำรุงหรือจัดหาเครื่องสำรองในการใช้งาน

แล้วถ้าเครื่องอัดอากาศที่ใช้อยู่มีขนาดที่ใหญ่เกินไปละ?

ขนาดของเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) ที่ใหญ่เกินไปทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากเมื่อมอเตอร์เริ่มทำงานใหม่ในแต่ละครั้งหลังจากหยุดทำงานจะทำให้เกิดการกระชากและกินไฟมากเกินไป เมื่อเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมของคุณสามารถผลิตลมอัดได้ตามที่ต้องการ เครื่องจะหยุดทำงาน (ภาวะที่เกิดอาจเรียกว่า Load / Unload) หามีการเริ่มและหยุดมอเตอร์มากเกินส่งผลโดยตรงต่อระบบกลไกของมอเตอร์ทำให้เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมเกิดข้อผิดพลาดและเกิด downtime

อาการเบื้องต้นทั้งสองอาการที่คุณพบนั่นหมายความว่าปริมาณการใช้ลมกับเครื่องอัดอากาศไม่สมดุลย์กัน คุณต้องหมั่นตรวจเช็คและดูแลเพิ่มขึ้นหากคุณต้องตรวจเช็คถึงค่าไฟหรือปัญหาด้านการใช้พลังงานผ่านเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ละเอียด โปรแกรมตรวจเช็คค่าพลังงานสำหรับระบบเครื่องอัดอากาศที่เรามีให้บริการ ฟรี!! ติดต่อเราเพื่อสอบถามเพิ่มเติม